งานเขียนบอกเล่าทั่วๆ ไป เกี่ยวกับประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน

category: 

ผมมีนิสัยแปลกๆ อยู่อย่างซึ่งไม่แน่ใจว่าคนที่อยู่ในแวดวงทำเว็บไซต์หรือเขียนโปรแกรมเป็นเหมือนกันไหม

ไอ้นิสัยแปลกๆ ที่ว่าก็คือ เวลาผมจะบริจากเงินให้หน่วยงาน องค์กร หรือมูลนิธิไหนก็ตาม ผมมักจะเข้าไปดูเว็บไซต์ทางการของหน่วยงานพวกนี้เสมอว่าทำด้วยเครื่องมืออะไร ใช้ CMS ตัวไหน

ถ้าเช็คแล้วว่าทำด้วย Drupal มันจะทำให้ผมตัดสินใจบริจากเงินง่ายขึ้น เพราะมันมักเกิดภาพลวงตาว่า หน่วยงานที่ใช้ Drupal ทำเว็บ มันเป็นองค์กรที่ดูดี มีมาตรฐาน ดูมีความตั้งใจในการดำเนินงาน ถึงแม้รู้ดีว่าที่จริงแล้วไม่ว่าใช้อะไรทำเว็บก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานขององค์กรเหล่านั้นเลย

category: 

หากผมเป็นหน่วยงานเล็กๆ ที่ไม่มีผู้ดูแลเว็บไซต์คอยอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ ผมจะใช้ Drupal

เพราะตัว Drupal เองมีระบบความปลอดภัยสูง ตั้งค่าการเข้าถึงในรูปแบบที่ซับซ้อนได้ง่าย ที่สำคัญคือมีองค์กรณ์ชื่อดังระดับโลกหลายแห่งเลือกใช้

สิ่งที่ผมอยากบอกคือ ตัว Drupal เป็น CMS ที่ทนไม้ทนมือ พังยาก บางเว็บไซต์ใช้งานมาเป็นสิบๆ ปีก็ยังอยู่ได้ ทั้งที่ไม่มีการอัปเดตอะไร ซึ่งแม้ว่าการที่ไม่อัปเดตเว็บไซต์ให้ทันสมัยอยู่เสมอมันจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับผู้ดูแลเว็บไซต์ แต่มันก็พูดได้ว่า สำหรับองค์กรที่ไม่มีนักทำเว็บไซต์ประจำ การที่ใช้เว็บไซต์ที่ทนไม้ทนมือคือสิ่งที่จำเป็น

category: 

มีคนเคยพูดว่า ผมคงทำเว็บนิยายและเว็บไซต์ให้ความรู้เกี่ยวกับคนตาบอดได้ไม่นานก็คงเลิกทำไปเหมือนหลายๆ เว็บที่เคยเกิดขึ้นมาได้ไม่ถึงปีแล้วปิดไป

มีคนเคยพูดว่า เว็บอ่านนิยายที่ทำด้วยคนตาบอดมันจะไปรอดได้ยังไง แม้แต่คนตาบอดเองก็คงแทบไม่มีใครไปอ่านด้วยซ้ำ

จากวันนั้นจนวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น Blindliving.club หรือ Keangun.com ก็ผ่านเข้ามาสู่ปีที่ 5 แล้ว

นี่คือคำตอบของผมที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมาจากปาก ว่าผมตั้งใจทำหรือแค่ทำมันขำๆ หรือทำชั่วครั้งชั่วคราวแล้วทิ้งไป

category: 

วันนี้ไปฟังเพลงเก่าๆ ใน Spotify รู้สึกว่าสำเนียงเก่าๆ ซาวด์เก่าๆ ฟังแล้วก็เพราะดี ให้บรรยากาศคนละแบบกับเพลงในปัจจุบันไปเลย

ไปเจอคำหนึ่งที่เคยได้ยินในสมัยเด็กและพบในงานเขียนเก่าๆ แต่เด็กยุคนี้อาจจะงง นั่นก็คือ "ตื่นตอนเช้าบางที ก็ยังต้องหมุนไปสวัสดี" (589-3375 : The Innocent)

category: 

เมื่อวานว่างๆ ผมเลยถือโอกาสไปตระเวนดูตามเว็บ นิยายออนไลน์ เจ้าเล็กๆ ที่เป็นตลาดรองๆ ลงไปจากเจ้าใหญ่ๆ ที่หลายคนคุ้นเคยกัน

ถ้าไม่นับเจ้าที่เน้นนำเสนอนิยายแปลของตัวเองที่ซื้อ LC มาแปลไทย เจ้าอื่นๆ ดูค่อนข้างเงียบเอามากๆ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะตลาดนี้แค่เจ้าใหญ่ๆ 4 – 5 เจ้าเขาก็แข่งขันกันหนักอยู่แล้ว เว็บเล็กๆ เลยเดินต่อยาก

category: 

เผลอแป๊บเดียว ก็มาถึงวันสุดท้ายของปีอีกแล้ว

ถ้าพูดถึงเรื่องงานประจำที่ทำอยู่ ก็เหมือนเดิม คือทำตามที่บริษัทกำหนด ไม่มีขาด แต่มีเกินไปนิดหน่อยแต่ไม่มาก

ถ้าพูดถึงงานอดิเรกที่ทำอยู่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีกว่าปีที่แล้ว

  • ว่าด้วยเรื่องการเขียน หลักๆ จะเป็นการเขียนบทความลงในเว็บต่างๆ ที่เป็นเจ้าของอยู่ซะมากกว่า ส่วนประเภทนิยายยังคงไม่มีอะไรคืบหน้า เพราะแทบไม่ได้จับอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย วางแผนว่าปีหน้าจะเอาให้ได้สักเรื่อง ไม่รู้จะได้ไหม คงต้องลองดูก่อน

category: 

เมื่อเสร็จจากงานหาเงิน ก็มาลุยงานอดิเรกต่อ

ผมพูดอยู่เสมอว่าเว็บ เขียนกัน จะเป็นเว็บไซต์ที่รองรับการอ่านนิยายของคนตาบอดได้โอเคที่สุด (ว่ากันง่ายๆ ก็คือจะทำให้โปรแกรมอ่านหน้าจอเข้าถึงในทุกเมนูให้ได้เยอะที่สุด)

ซึ่งในตอนนี้ ผมก็ได้นั่งงม Drupal มาหลายวัน จนสามารถใส่ระบบคำบรรยายภาพปกนิยายเข้ามาได้แล้ว

category: 

ในอนาคต ปัญหาเว็บไซต์ที่ทำด้วย Drupal ในรุ่นหลักต่างๆ จะไม่มีการอัปเกรด จะเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็ชิน

เพราะตามนโยบายของ Drupal ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์แสดงรายละเอียดไว้ว่า ทาง Drupal จะออกรุ่นหลักทุกๆ 2 ปี แล้วรุ่นเก่าๆ ก็จะทยอยเลิกการสนับสนุนไปตามลำดับ

มันจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ถ้าการอัปเกรดเวอร์ชันหลักของ Drupal มันทำได้ง่ายๆ เหมือนอัปเดตรุ่นย่อย หรือมีการอัปเกรดคล้ายๆ WordPress แต่ในความเป็นจริงคือ Drupal อัปเกรดจากรุ่นเดิมไปรุ่นใหม่ได้ยาก (มาก) สำหรับ User ธรรมดา (และประเด็นนี้ก็มีการถกเถียงกันในฟอรั่มหลักของ Drupal อยู่เนืองๆ)

category: 

บันทึกวันรับปริญญา

วันพุธที่ 9 พฤศจิกายน2565 เวลา10:00 น. โดยประมาณ

ที่จริงผมเรียนจบมาได้ราวๆ สองปีแล้ว เนื่องเพราะเรียนช้าไปสองปี ดังนั้นปีที่ผมจบ ผมเลยมีอายุราวๆ 24 – 25 ปี พอจบ ก็มาทำงานเพื่อรอเอาใบปริญญา

แจกใบปริญญาช้าขนาดนี้ ผู้อ่านที่หลงเข้ามาอ่านหลายคนก็คงจะพอเดาได้คร่าวๆ แล้วว่า ผมจบจากที่ไหน ใช่ครับ มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนก็คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏนั่นเอง ซึ่งจังหวัดที่ผมเรียนก็คือ จังหวัดมหาสารคาม รวมกันเข้าเป็นชื่อมหาวิทยาลัยว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (RMU)” นั่นเอง

category: 

มีโอกาสได้เล่น Drupal9 อย่างจริงจังแล้ว การทำงานต่างๆ ไม่ต่างจาก Drupal7 มาก ถ้าเคยใช้ Drupal7 มาก่อนก็พอจับทางได้ รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

แต่สิ่งที่คิดคือ สำหรับคนที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่แล้ว Drupal9 ถือว่ามีเมนูการทำงานที่ซับซ้อนกว่าเดิมมาก จะหาอะไร จะทำอะไรก็ยาก เพราะเมนูของเครื่องมือแต่ละตัว ไม่ได้รวมกันไว้เหมือน Drupal7 เช่นการจัดการช่องข้อมูลหรือ Fields ซึ่งถ้าเป็น Drupal7 มันจะสามารถตั้งค่าการทำงาน ตั้งค่าการแสดงผลในที่เดียวกันได้แทบจะครอบคลุมทั้งหมด

category: 

hello

This is Drupal's Thai language file.

can be used together

อันนี้คือไฟล์ Drupal ภาษาไทย เพียงแค่คุณนำไฟล์นี้ไปใส่ในตัวไฟล์ภาษาของ Drupal เมนูเว็บของคุณก็จะเปลี่ยนเป็นภาษาไทย

นำไปใช้กันได้เลย

download

category: 

ผมมองเห็นอะไรจากการทำเว็บนิยายออนไลน์ (เล่นๆ) มาเกือบ 5 ปี

อย่างแรกเลยก็คือ ถ้าเว็บไม่สวย ระบบไม่ดีกว่าเจ้าเดิมในตลาด เราจะแข่งขันยาก เพราะอย่าลืมว่าเนื้อหาบนเว็บ หลักๆ เราได้จากนักเขียน ดังนั้นนักเขียนอยู่ไหน คนอ่านก็อยู่นั่น ในทางกลับกันเมื่อมีเนื้อหาเยอะ คนอ่านก็จะไปรวมตัวกันอยู่พื้นที่นั้นด้วยเช่นกัน

ซึ่งอย่าลืมว่า ยิ่งระบบทำความเข้าใจได้ง่ายมากแค่ไหน โดยเฉพาะระบบลงเนื้อหา ระบบขาย ระบบตรวจสอบข้อมูลของนักเขียน รวมถึงระบบการซื้อ ถ้ามันง่าย โอกาสที่เราจะดึงคนมาก็จะเพิ่มขึ้น เพราะเขามองว่าระบบใช้ง่ายกว่าเจ้าเดิม ดีกว่าเจ้าเดิม คนเขาก็จะชักชวนกันมา

category: 

คิดว่าหลายๆ คน คงจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับคำว่าโปรเกรสซีฟเว็บแอป (Progressive Web Apps) หรือที่เรียกกันอย่างย่อๆ ว่า PWA กันสักเท่าไหร่ แต่เชื่อหรือไม่ว่า อีกไม่นาน เจ้าตัวโปรเกรสซีฟเว็บแอปนี่แหละ มีแนวโน้มที่จะมาแทนที่แอปพลิเคชันที่เรามักนิยมติดตั้งกันลงในสมาร์ทโฟน

โปรเกรสซีฟเว็บแอป และแอปพลิเคชันแตกต่างกันอย่างไร?

หากจะให้อธิบายแบบง่ายๆ เมื่อเรานึกถึงแอปพลิเคชัน ก็คือเวลาเราต้องการใช้งาน หรือใช้ฟังก์ชันต่างๆ ของบริการไหนสักบริการ เราก็จะต้องดาวน์โหลดตัวไฟล์ หรือตัวแอปพลิเคชันนั้นๆ ให้เข้ามาอยู่ในเครื่องของเรา เราถึงจะใช้งานสิ่งที่เราต้องการได้อย่างสะดวก

category: 

ผมว่าปัญหาของคนไทยยุคใหม่ที่ชัดเจนคือ เวลาอ่านขาดการสรุปความและตีความ ขาดการทำความเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองอ่าน

ทำไมผมถึงคิดแบบนั้น? นั่นเพราะหลายครั้งที่ผมเห็นใครหลายคนมักตั้งกระทู้หรือโพสต์ในเชิงขอความช่วยเหลือประมาณว่า อ่านแล้ว แต่ยังไม่เข้าใจ อ่านแล้วยังงงๆ อ่านแล้วเนื้อหาเยอะเกิน สรุปให้เข้าใจง่ายๆ หน่อยได้ไหม

category: 

มานั่งนึกดู ผมว่า ผมก็มีจุดเปลี่ยนในช่วงชีวิตของผมไม่น้อยเหมือนกัน แถมจุดเปลี่ยนในแต่ละครั้ง ยังเปลี่ยนการดำเนินชีวิตไปเป็นส่วนใหญ่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสังคม กลุ่มเพื่อน หรือแม้กระทั่งการเรียน รวมถึงสายงานที่ทำ

แต่ก่อนจะเปลี่ยนสาย ก็จะมีวางแผนไว้บ้างเล็กๆ น้อยๆ ส่วนหนึ่งที่กล้าทำ เพราะภาระความรับผิดชอบยังไม่มีด้วยนั่นแหละ (แน่ละ ยังวัยรุ่นอยู่ 55)

เริ่มแรกอยากจะเป็นนักดนตรี ตอนนั้นอายุอยู่ระหว่าง ม.ต้น ก็ลุยเลยเต็มที่ ทั้งไปซื้อแผ่นซีดีมาเรียน หาดูวิดีโอตามเน็ต รวมถึงเข้าไปเรียนที่วิทยาลัยนาฏสิลป์

category: 

ไปเจอประเด็นหนึ่งในโซเชียล ว่าด้วยเรื่องสำนวนการเขียนของนักเขียน ที่หลายคนมองว่า นักเขียนบางคนใช้คำซับซ้อน หรือยากต่อการทำความเข้าใจ ทำให้ไม่อยากอ่าน และอยากให้นักเขียนหันมาใช้คำง่ายๆ หยาบๆ หรือใช้คำตรงตัวเหมือนนิยายแชท หรือนิยาย NC ตบจูบบางเรื่องไปเลย

ผมมองว่าคิดแบบนั้นก็ไม่ถูก และก็ไม่ผิด แต่อยากให้เข้าใจว่า งานเขียนมันคืองานศิลปะแขนงหนึ่ง ซึ่งคนเราเข้าถึงได้ไม่เท่ากันอยู่แล้ว ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ดังนั้นการเสพงานของแต่ละคนจึงเข้าถึงได้ไม่เท่ากัน

บางคนเข้าถึงได้แค่เนื้อหาภายนอก เช่นใคร ชื่ออะไร ทำอะไร อยู่ที่ไหน อย่างไร สนุก ไม่สนุก

category: 

วันนี้นึกยังไงไม่รู้ ไปหาดูภาพยนตร์เรื่อง "รักหนูมั้ย?" ซึ่งดูแล้วประทับใจมาก ผมเลยแวะมาบันทึกเอาไว้ครับ

ออกตัวก่อนว่า บทความนี้มีสปอยหนักมาก ดังนั้นใครไม่ชอบสปอย ไม่ควรอ่านเป็นอย่างยิ่งครับ

จริงๆ ได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ลืมดู ส่วนหนึ่งคิดในใจว่า "นางเอกมีคนเดียว พระเอกมีตั้งสามคน แล้วมันจะจบยังไงวะ คงจบไม่ดีแน่ๆ" เพราะคิดแบบนั้นแหละ เลยไม่ได้ดู แล้วก็ลืมไป จนมาได้ยินชื่อหนังเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งอย่างบังเอิน ก็เลยคิดว่า "เอ้า มันเป็นหนังค่ายเดียวกันกับไทบ้านเดอะซีรีส์นี่ งั้นดูสักหน่อยแล้วกัน"

category: 

พวกที่ทำแอปสำหรับให้คนทำภารกิจต่างๆ เช่นทำแบบสอบถาม อ่านข่าว ดูวิดิโอ รวมถึงอ่านนิยายแล้วได้เงิน บอกเลยว่าเป็นแนวคิดที่ฉลาดมากๆ

หลายคนอาจไม่เข้าใจว่า ทำไมแอปพลิเคชันพวกนี้ต้องแจกเงินให้กับคนที่เข้าชม และเจ้าของแอปพลิเคชันนำเงินจากไหนมาแจกมากมาย

ต้องขอบอกว่าการทำเว็บแนวนี้ หรือทำแอปพลิเคชันแนวนี้ต่างคนต่างก็มีผลประโยชน์ร่วมกัน จะเรียกว่าถ้อยทีถ้อยอาศัยก็ว่าได้ เพราะหากเราสังเกตดีๆ แอปพลิเคชันพวกนี้มักจะมีโฆษณาเด้งขึ้นมาให้เราพบเห็นอยู่เสมอๆ ซึ่งก็โฆษณาเหล่านี้แหละ ที่เป็นแหล่งรายได้ของเว็บ

แล้วทำไมเว็บพวกนี้ต้องแจกเงิน?

category: 

userpoints transfer To author (Transfer points to the owner of the node When trading content) Module For Drupal 7

property

When a user makes a purchase Content The module transfers the points to the owner of the node.

In node trading Must use modules

How to use

Install and Enable userpoints To author module

category: 

ใครบอกว่าเรียนมนุษย์ไทยแล้วไม่มีงานทำ?

ผมบอกเลยว่างานน่ะมีเยอะแยะ อย่างการเป็นนักเขียนบทความอิสระ ถ้ามีเวลาเขียนทุกวัน วันละหลายๆ บทความ เงินต่อเดือนไม่ต่ำกว่าหมื่นห้าแน่นอน

ยิ่งมีทักษะการเขียนบทความ SEO (ซึ่งในปัจจุบัน ควรมีวิชานี้สอนอย่างยิ่ง) ยิ่งหาเงินได้เยอะ เพราะใช่ว่าทุกคนจะเขียนได้และเขียนเป็น

หรือถ้ามองว่าการเป็นนักเขียนบทความอิสระมันเหนื่อยเกินไป ทุกวันนี้หลายเว็บไซต์เขาก็มีการจ้างนักเขียนประจำ อย่างราคาทั่วๆ ไปก็เดือนละเก้าพัน เขียนวันละสามบทความ อันนี้ก็ไม่น้อยนะ (ถ้าเราไม่ใช้เปลือง)

category: 

เอาจริงๆ ในแง่ของคนชอบฟังเพลง คือฟังหมดทั้งต้นฉบับและคัฟเวอร์

สังเกตว่านักร้องพักหลังๆ ไม่มีความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองเลย ทั้งเพลงลูกทุ่งหรือสตริง ลูกคอลูกเอื้อนของหลายๆ คนแทบจะลอกกันมาด้วยซ้ำ

ถามว่ามันฟังเพราะหรือเปล่า โอเคมันก็ถือว่าเพราะ แต่มันก็เพราะไม่สุด

อารมณ์มันเหมือนกินอาหารอร่อยๆ แต่เป็นอาหารประเภทเดิมๆ แล้วกินมันซ้ำๆ คือต่อให้มันจะอร่อยยังไง แต่คนเรามันก็มีเบื่อกันบ้าง

category: 

เชื่อว่าเพื่อนๆ นักเขียนหลายคน ที่เผยแพร่ผลงานลงตามเว็บไซต์ต่างๆ คงจะรู้สึกปวดหัวกับการจัดหน้านิยายของตัวเองไปไม่น้อย สืบเนื่องจากเราจัดหน้านิยายใน Word ออกมาดูดีแล้ว แต่พอก็อปปี้ไปวางลงบนเว็บไซต์ มันกลับกลายเป็นว่า แต่ละย่อหน้าของเรามองดูติดกันเป็นพรืด นอกจากระยะห่างของบันทัดจะแคบแล้ว ย่อหน้าที่เราเคาะ Tab เอาไว้เป็นอย่างดี กลับหายไปซะอย่างงั้น

เพราะปัญหาดังกล่าว ดังนั้นผมจึงมีคำแนะนำง่ายๆ มาฝากกันครับ มันอาจจะดูยุ่งยากไปบ้าง แต่ถ้าทำแล้ว นำไปใช้ได้ทุกเว็บแน่นอน

category: 

ที่ไม่ชอบที่สุด คือคนที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่มักบอกว่าตัวเองยังไม่มีนี่แหละ

จะทำไปเพื่อ?

ในเมื่อคิดว่าแฟนของตัวเองไม่ค่อยมีเวลาให้ ทางแก้ปัญหาคือต้องหาคนคุยแก้เหงาแบบนั้นเหรอ?

ทางออกมันมีหลายวิธี อย่าใช้วิธีกึ่งๆ นอกใจแฟนของตัวเองแบบนี้เป็นทางออกเลย

เพราะมันไม่ได้ทำร้ายแค่ตัวคุณเอง หรือแฟนของคุณ

แต่มันยังทำร้ายคนที่เขาเดินเข้ามาโดยที่ไม่รู้อะไรไปด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้ว มันไม่มีใครอยากจะรักแฟนของคนอื่นหรอก แต่ที่ทำไป เพราะมันไม่รู้มาตั้งแต่แรก

บางคนรู้แล้วตัดใจได้ สิ่งที่จะทำได้คือเลือกเดินจากไป

category: 

เมื่อนักเขียนหลายคนต้องพูดถึงเรื่องการโปรโมทผลงาน สิ่งแรกที่จะนึกถึงก็คงจะเป็นการแชร์ลิงก์สำหรับติดตามผลงานลงไปตามโซเชียลต่างๆ อาทิทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก หรือไลน์

วิธีดังกล่าวนับเป็นอีกวิธีที่ใช้แล้วได้ผล อีกทั้งยังได้รับความนิยม และดำเนินการได้ง่ายที่สุด เพราะแค่พิมพ์ตัวอย่างของงานเขียนบางตอน จากนั้นก็วางลิงก์สำหรับซื้อหรือทดลองอ่านเอาไว้ ตามด้วยโพสต์ลงไปตามกลุ่มต่างๆ เพื่อให้คนอื่นๆ ได้เห็นและกดเข้าไปดูรายละเอียดตามลิงก์

category: 

หากพูดถึงความฝัน...จะมีใครสักกี่คนที่ทำมันสำเร็จ

สิ่งที่เป็นอุปสรรคไม่ใช่แค่สภาวะแวดล้อม แต่ยังเป็นตัวของเราเองอีกด้วย เราพูดได้ว่าเราอย่างเป็นแบบนั้นแบบนี้ อยากทำอาชีพนั้นอาชีพนี้ แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะทำได้อย่างใจคิด

...บางคนอาจเปลี่ยนเส้นทางเพราะพบเจอเส้นทางใหม่ที่ดีกว่า...

หรือบางคนก็ล้มเลิกสิ่งที่ตัวเองฝันไปเพราะความยากลำบากที่ได้เจอ

...บางคนอาจไม่วิ่งตามฝันของตัวเอง เพราะงานที่ทำอยู่ก็ได้เงินดีอยู่แล้ว

แต่ไม่ว่าเหตุผลไหน ก็คือเราได้ทิ้งความฝันของเราไปแล้ว ถ้าทิ้งหากแต่มีความสุขก็ดีไป

Pages